เราควรพิจารณาการเกษียณอายุในต่างประเทศหรือไม่?

ชาวอเมริกันหลายล้านคนกำลังเกษียณอายุในต่างประเทศ คุณควรพิจารณาด้วยหรือไม่?

อัตราเงินเฟ้อกำลังทำให้ผู้เกษียณหาทางเลือกในการใช้ชีวิตวัยเกษียณของพวกเขา

สำนักงานประกันสังคม (SSA) ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 413,000 เป็น 760,000 ในช่วงสามปีที่ผ่านมา จำนวนที่กล่าวข้างต้นนั้นเป็นการประเมินแบบประมาณการ ถึงแม้ผู้เกษียณอายุในสหรัฐอเมริกาได้ฝากเงินไว้ในธนาคารของสหรัฐก็จริง แต่อย่างไรแล้ว พวกเขามักใช้ชีวิตวัยเกษียณของพวกเขาในต่างประเทศ และถอนเงินจากธนาคารต่างประเทศแทน ซึ่งธุรกรรมเช่นนั้นอาจไม่ได้ปรากฏขึ้นในระบบบัญชีประกันสังคมของสหรัฐอเมริกาในความเป็นจริงแล้วกระทรวงการต่างประเทศในสหรัฐอเมริกาประเมินว่ามีชาวอเมริกัน 9 ล้านคนอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และในจำนวนนี้มีผู้เกษียณอายุ 5 ล้านคน หรือ 12% ของผู้เกษียณอายุทั้งประเทศจาก 45 ล้านคน

การเกษียณอายุในต่างประเทศ

การอาศัยอยู่นอกสหรัฐอเมริกา

คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์เข้าใจถึงข้อดีของการใช้ชีวิตนอกสหรัฐอเมริกามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบันที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับผลตอบแทนจากการลงทุน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเหตุผลที่ส่งเสริมทำให้การเกษียณอายุในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้

อีกสาเหตุหลักคืออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ผู้เกษียณอายุหลายท่านมองเห็นข้อดีของการใช้ชีวิตในต่างแดนมากขึ้น เนื่องจากค่าครองชีพในต่างประเทศมีอัตราที่ถูกกว่าในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งด้วยการระบาดของโควิด จำนวนผู้อพยพจึงทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

การมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ

ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าเหตุใดชาวอเมริกันจำนวนมากจึงตัดสินใจเกษียณอายุในต่างประเทศ จากนั้นเราจะอธิบายว่าประเทศยอดนิยมคือที่ไหน และสุดท้ายผู้เกษียณอายุจะประสบความสำเร็จในการพำนักในต่างประเทศได้อย่างไร

ปัจจัยแรกคือปัจจัยด้านการเงิน ผู้เกษียณอายุหลายท่านอาจจะมีฐานะทางการเงินค่อนข้างรัดตัวในประเทศบ้านเกิด แต่หากคิดอย่างละเอียดแล้ว ผู้เกษียณอายุเหล่านี้อาจจะนำเงินจากการเกษียณในบ้านเกิดมาใช้ประโยชน์ในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตแบบหรูหราในต่างแดนได้

ประเทศปลายทาง เช่น ประเทศในแคริบเบียน บางประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียน หรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค่าครองชีพจะถูกกว่าหากเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นเราขอแนะนำประเทศยอดนิยมจากแต่ละทวีปนั่นคือ ประเทศเกรนาดา โปรตุเกส และไทย

ค่าเช่าตามที่กล่าวไว้ข้างต้นคำนวณเป็นหนึ่งในสามหรือน้อยกว่าถ้าเทียบกับอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอื่นๆ เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้อย่าง “Expatistan” ระบุว่าอาหารในสหรัฐอเมริกามีราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ยในประเทศเหล่านี้อย่างมาก เช่นเดียวกับเสื้อผ้า การเดินทาง การดูแลส่วนตัว และความบันเทิง ในส่วนของเว็บไซต์ Livingcosts.org ที่มีการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในเกือบ 200 ประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่าในประเทศปลายทางยอดนิยม ชาวต่างชาติสามารถประหยัดเงินได้มากถึง 1,000 เหรียญสหรัฐหรือมากกว่าต่อเดือน แม้กระทั่งในฝรั่งเศสซึ่งมักถูกมองว่าสินค้ามีราคาแพง

ENQUIRE NOW



    Share this article

    ค่าครองชีพ

    ข้อมูลจาก mylifeelsewhere.com เว็บไซต์ที่ตรวจสอบค่าครองชีพทั่วโลก ระบุว่าอพาร์ทเมนต์แบบหนึ่งห้องนอนในเมืองในโปรตุเกสมีราคาถูกกว่าในเมืองในอเมริกาถึง 57% โดยมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 500 ดอลลาร์ต่อเดือน ส่วนในเกรนาดานั้นถูกกว่า 60% และในประเทศไทย 80% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าค่าครองชีพในสามประเทศที่กล่าวมีราคาแค่ครึ่งหนึ่งของราคาที่จ่ายในอเมริกา นั่นแปลว่าผู้เกษียณอายุสามารถมีอพาร์ทเมนต์ขนาดใหญ่และหรูหรากว่าพร้อมวิวและสระว่ายน้ำในต่างประเทศได้อีกด้วย โดยรวมแล้วค่าครองชีพในประเทศเหล่านี้ยังน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอเมริกา โดย 34% ในโปรตุเกส 21% ในเกรนาดา และ 43% ในประเทศไทย

    นอกเหนือจากค่าที่พักและค่าครองชีพแล้ว ข้อพิจารณาหลักอีกประการหนึ่งสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีที่ต้องการเกษียณอายุในต่างประเทศคือการรักษาพยาบาล แม้ว่าประกันสังคมจะจ่ายค่าใช้จ่ายค่ารักษาบางส่วนให้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป แต่ส่วนใหญ่ จะไม่ครอบคลุมถึงงานทันตกรรม และอาจมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจ่ายเอง ทั้งสามประเทศที่กล่าวมาข้างต้นมีระบบการรักษาพยาบาลที่ดีและมีค่าใช้จ่ายในการรักษาต่ำกว่าในสหรัฐอเมริกาอย่างมาก

    ตัวอย่างเช่น ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศอยู่ที่ประมาณ 25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้เป็นเพียงหนึ่งในหกหากเทียบกับค่ารักษาในสหรัฐอเมริกา

    นอกเหนือไปจากข้อเท็จจริงที่ว่ามันค่อนข้างน่าตื่นเต้นที่จะได้ใช้ชีวิตในที่ใหม่ๆ หลายๆ ประเทศที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับผู้เกษียณอายุชาวอเมริกันยังมีความโดดเด่นในเรื่องทิวทัศน์ ชายหาด และแสงแดดตลอดทั้งปี การเดินทางเป็นที่นิยมมากในกลุ่มอายุนี้ ทั้งแคริบเบียน ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ล้วนมีวัฒนธรรมและสถานที่น่าสนใจมากมาย นอกจากนี้ ยังคงมีความหลากหลายทางด้านความบันเทิงมากกว่าในสหรัฐฯ โดยมีทุกอย่างตั้งแต่กีฬาทางน้ำไปจนถึงการเดินป่า ตีกอล์ฟไปจนถึงงานศิลปะ โรงบ่มไวน์ แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหาร

    หลายประเทศเหล่านี้มีระบบภาษีที่เอื้ออำนวยแก่ผู้อาศัยมากขึ้น ทำให้ผู้อาศัยสามารถจัดการทางการเงินง่ายขึ้น ในบางประเทศพวกเขาไม่เก็บภาษีสำหรับรายได้ที่มาจากต่างประเทศ ไม่มีภาษีความมั่งคั่ง และไม่มีภาษีมรดก

    ประการสุดท้าย ความปลอดภัยเป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอายุมาก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีการจัดอันดับความปลอดภัย ตั้งแต่ 1 ซึ่งหมายถึง “ปกติ” ไปจนถึง 4 ซึ่งแนะนำว่า “ห้ามเดินทาง” อย่างไรก็ตามประเทศทั้งหมดที่เรากล่าวถึงจัดอยู่ในลำดับ 1 เท่านั้น

    ดัชนีสันติภาพโลกเชิงลึกจัดอันดับประเทศเพื่อความปลอดภัย โดยอเมริกาอยู่ตรงกลางที่ลำดับ 126 อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 103 และมีความปลอดภัยมากกว่าสหรัฐอเมริกา ส่วนโปรตุเกสในอันดับที่ 6 ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการเกษียณอายุในต่างประเทศของ HLG คลิกที่นี่

    หากคุณมีคำถามหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://harveylawcorporation.com/retirement-visa-programmes/หากคุณต้องการหารือเกี่ยวกับแผนของคุณกับผู้เชี่ยวชาญของเรา โปรดส่งอีเมลถึงเราที่ contact@harveylawcorporation.  HLG เป็นสำนักงานกฎหมายด้านการย้ายถิ่นฐานมืออาชีพ ดังนั้น มีหน้าที่ให้คำแนะนำคุณเกี่ยวกับตัวเลือกที่ดีที่สุดและโปรแกรมที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณมากที่สุด

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    โปรแกรมการลงทุนขอสัญชาติที่สองของประเทศแอนติกาแอนด์บาร์บูดา

    ประเทศแอนติกาแอนด์บาร์บูดาเป็นประเทศที่มีธรรมชาติที่งดงามไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา นอกจากนี้ยังมีสถานท…